วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

(ใบตราส่งสินค้าทางทะเล )
ใบตราส่งสินค้าทางทะเล  OCEAN BILL OF LADING ( B/L ) เป็นเอกสารสำคัญที่สุด เมื่อมีการส่งสินค้าทางทะเล Bill of Lading เป็นใบรับรอง มอบสินค้าของบริษัทเรือที่ทำการส่งออก ซึ่งมีลักษณะปลีกย่อยดังนี้                                        
          ใช้กับการขนส่งรวมรูปแบบต่อเนื่องหลายวิธีเข้าไว้ด้วยกัน เรียกว่า Multimodal Transport Document หรือ Combine Transportation Bill ofLading  และใช้ในการขนส่งที่ผู้รับสินค้าไม่ต้องนำต้นฉบับใบตราส่งไปขอรับสินค้า ซึ่งในทางปฏิบัติผู้รับสินค้าสามารถใช้สำเนาใบตราส่งไปขอรับใบสั่งปล่อยจากตัวแทนเรือได้ เรียกว่า Seaway Bill หรือExpress Bill ใบตราส่งประเภทนี้ผู้รับตราส่งจะต้องเป็นผู้นำเข้าโดยตรง และความรับผิดชอบของผู้รับขนส่งมีน้อยกว่าใบตราส่งประเภทอื่น

ใบตราส่งสินค้าทางทะเล เป็นเอกสารแสดงสิทธิในสินค้า และเป็นหลักฐานสัญญาของบริษัทเรือที่จะขนส่งสินค้าทางเรือ ของประเทศส่งออกไปยังท่าเรือปลายทาง ใบตราส่งสินค้ามีหลายชนิดดังนี้ คือ
             
CLEAN B/L คือใบตราส่งสินค้าที่บริษัทเรือไม่ได้บันทึกแจ้งข้อบกพร่องของสินสินค้า / หรือ การบรรจุหีบห่อ
             
NON-NEGOTIABLE OR STRAIGHT B/L
                   เป็นใบตราส่งสินค้าที่ยินยอมให้มีการส่งมอบให้แก้ผู้รับสินค้า (CONSIGNER )ที่ระบุไว้เท่านั้น จะโอนให้ผู้อื่นมารับไม่ได้
            
ORDER B/L
                  ใบตราส่งสินค้าที่ออก โดยมีการส่งมอบสินค้าตามคำสั่ง ( ORDER ) ปกติตามคำสั่งของผู้ส่งสินค้าหรืออาจเป็นลอย ๆ ซึ่งต้องมีการสลักหลังโดยผู้ส่งสินค้าเพื่อเป็นการโอนสิทธิ์ในสินค้าให้กับ ผู้ทรง ( HOLDER ) หรือผู้ที่ได้รับการโอนสิทธิ์ให้ โดยเจาะจงการสลักหลังใบตราส่งสินค้ามาถึงแล้วเท่านั้น
            
ORDER “ NOTIFY” B/L
                   เหมือนกับใบตราส่งสินค้าชนิด “ ORDER” เพียง แต่เพิ่มข้อความในใบตราส่งสินค้า ว่าเมื่อสินค้าถึงเมืองท่าปลายทางแล้ว ตัวแทนบริษัทเรือที่มีเมืองท่าปลายทาง จะแจ้งให้กับผู้รับสินค้าทราบการแจ้งนี้ไม่ถือเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ ในสินค้านั้นให้กับผู้รับแจ้ง เพียงเป็นเรื่องแจ้งให้ทราบว่าสินค้ามาถึงแล้วเท่านั้น
                  เป็นตราสารแสดงสิทธิ์ของผู้ทรงและเปลี่ยนมือได้ (NEGOTIABLE INSTRUMANT) คือเป็นเอกสารแสดงสิทธิในสินค้าและโอนสิทธิต่อ ๆ กันได้ BILL OF LADING นี้ยังแบ่งออกเป็น
            
“ THROUGH” BILL OF LANDING เป็นใบตราส่งออกในกรณีที่การขนส่งทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งระบุการขนส่งไว้ตลอดทาง ปกติผู้รับขนส่งคนแรกจะเป็นผู้ออกใบตราส่งชนิดนี้
            
“RECEIVED FOR SHIPMENT” BILL OF LANDING เป็นใบตราส่งสินค้าชนิดที่มีลักษณะเป็นเพียงสัญญาแสดงว่าได้รับการสินค้าไว้ เพื่อจะทำการขนส่ง แต่ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าสินค้าได้ขึ้นเรือลำที่ระบุไว้เป็นการเรียบร้อย แล้ว
        
     “SHIPPED ON BOARD ” BILL OF LADING เป็นใบตราส่งซึ่งแสนดงว่าสินค้าได้ขึ้นเรือระวางเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
            
“CHARTER PARTY ” BILL OF LADING เป็นใบตราส่งที่ผู้รับขนได้เช่าเรือของผู้อื่นมารับทำการขนส่งสินค้าซึ่งระบุเงื่อนไขให้สัญญาขนส่งติดแยกจากใบตราส่งชนิดอื่น
ใบตราส่งสินค้า
  • เป็นตราสารที่ผู้รับขนสินค้าออกให้แก่ผู้ส่งสินค้า เพื่อแสดงว่าได้มีการรับสินค้าเพื่อนำส่งไปยังจุดหมายปลายทางที่ผู้ส่งสินค้ากำหนด ใบตราส่งสินค้ามีหลายชนิด เช่น
  • ใบตราส่งสินค้าทางทะเลเรียกว่า Ocean Bill of Lading ซึ่งมีลักษณะปลีกย่อยดังนี้ ใช้กับการขนส่งรวมรูปแบบต่อเนื่องหลายวิธีเข้าไว้ด้วยกัน เรียกว่า Multimodal Transport Document หรือ Combine Transportation Bill of Lading
  • ใช้ในการขนส่งที่ผู้รับสินค้าไม่ต้องนำต้นฉบับใบตราส่งไปขอรับสินค้า ซึ่งในทางปฏิบัติผู้รับสินค้าสามารถใช้สำเนาใบตราส่งไปขอรับใบสั่งปล่อยจากตัวแทนเรือได้ เรียกว่า Seaway Bill หรือ Express Bill ใบตราส่งประเภทนี้ผู้รับตราส่งจะต้องเป็นผู้นำเข้าโดยตรง และความรับผิดชอบของผู้รับขนส่งมีน้อยกว่าใบตราส่งประเภทอื่น
  • ใบตราส่งสินค้าทางอากาศเรียกว่า Air Way Bill
  • ใบตราส่งสินค้าทางรถไฟ เรียกว่า Railway Bill ใบตราส่งสินค้าที่สำคัญได้แก่

ใบตราส่งสินค้าทางเรือ (Bill of Lading)
     ใบตราส่งสินค้าทางเรือเป็นเอกสารที่มีคุณลักษณะ 3 ประการ คือ
  • เป็นใบรับสินค้าที่ออกให้โดยสายเดินเรือหรือตัวแทนสายเดินเรือ ที่มีรายละเอียดของสินค้าที่จะทำการขนส่ง
  • เป็นสัญญาการขนส่งระหว่างผู้ส่งสินค้ากับผู้รับขนส่งสินค้า ว่าผู้รับขนส่งจะส่งสินค้าไปยังเมืองท่าปลายทางและจะส่งมอบให้แก่ผู้รับที่ผู้ส่งสินค้าได้ระบุไว้

  • เป็นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ขนส่งที่เปลี่ยนมือได้ (Negotiable) ของผู้ทรงสิทธิ์ ซึ่งผู้ทรงสิทธิ์จะใช้ในการขอรับสินค้าที่ท่าเรือปลายทาง หรือจะใช้ในการขายต่อสินค้าให้กับผู้รับซื้อช่วงในระหว่างการขนส่งก็ได้


ข้อความที่สำคัญในใบตราส่งสินค้าทางเรือมีดังนี้
  • ใบตราส่งสินค้าทางอากาศ (Air Way Bill)  ใบตราส่งสินค้าทางอากาศเป็นเพียงใบรับสินค้าและสัญญาการขนส่งเท่านั้น

ข้อความที่สำคัญในใบตราส่งสินค้าทางอากาศมีดังนี้
  • ใบตราส่งสินค้าที่ใช้กับการขนส่งรวมรูปแบบต่อเนื่องหลายวิธีเข้าไว้ด้วยกัน
        ใบตราส่งสินค้าที่ใช้กับการขนส่งรวมรูปแบบต่อเนื่องหลายวิธีเข้าไว้ด้วยกัน เรียกว่า Multimodal Transport Bill of Lading ใช้สำหรับการขนส่งที่รวมรูปแบบหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน เช่น ขนส่งโดยรถยนต์ไปต่อเรือเดินสมุทรแล้วไปต่อเครื่องบินอีกทอดหนึ่งเป็นต้น ใบตราส่งสินค้าแบบ Multimodal Transport Bill of Lading มีรายละเอียดเหมือนกันกับใบตราส่งสินค้าทางทะเลเกือบทั้งหมด




ข้อความที่สำคัญในใบตราส่งสินค้าแบบ Multimodal Transport Bill of Lading มีดังนี้

ภาพ:ขาย.GIF
ข้อมูลจาก
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php
http://wannaratw.tripod.com/343_ch3b.htm
ศัพท์ที่ควรรู้
Financial Document  เอกสารทางการเงิน
1.  Bill of exchange
     ตั๋วแลกเงิน คือ ตราสารการเงินระยะสั้น ที่บุคคลรายหนึ่งสั่งให้บุคคลอีกรายหนึ่ง จ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ในตั๋วแลกเงินนั้น ให้แก่บุคคลอีกรายหนึ่ง ในวันที่กำหนดบนหน้าตั๋วแลกเงินนั้น ตั๋วแลกเงินสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ในตลาดเงิน (money market) ส่วนใหญ่จะมีธนาคารหรือสถาบันการเงินค้ำประกัน หรือรับรอง หรือรับอาวัล หรือสลักหลังอย่างไม่มีเงื่อนไข ตั๋วเงินชนิดหนึ่งเป็นตราสารแสดงสิทธิในหนี้ มักใช้ในการซื้อขายสินค้าหรือกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคาร โดยทั่วไปสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้การออกตั๋วแลกเงิน
2.  Draft 
      ดราฟต์ (Demand Draft) คือตราสารทางการเงิน หรือ ตั๋วแลกเงินของธนาคาร ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นผู้ออกและสั่งให้ธนาคารตัวแทน (Correspondent Bank) หรือสาขาของตนในต่างประเทศจ่ายเงินจำนวนหนึ่งตามที่ระบุในดราฟต์ ให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ที่มีชื่อระบุไว้บนดราฟต์
        ตั๋วแลกเงินหรือดราฟต์ (Bill of Exchange or Drafts) ในกรณีนี้ผู้ออกตั๋วเป็นผู้สั่งให้อีกบุคคลหนึ่งจ่ายให้แก่ตน หรือจ่ายให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งตามคำสั่ง โดยที่ตั๋วแลกเงินนั้นก็คือ หนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้จ่ายให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน ดังนั้น จะเห็นได้ว่าในกรณีตั๋วแลกเงินนั้นมีบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องถึงสามฝ่ายด้วยกันคือ ผู้สั่งจ่าย (Drawer) ผู้รับคำสั่งให้จ่ายหรือผู้จ่าย (Drawee) และผู้รับเงิน (Payee ) แต่ในบางกรณีอาจจะมีเพียงสองฝ่ายก็ได้ คือ ผู้สั่งจ่ายและผู้รับเงินเป็นบุคคลเดียวกัน
        ตั๋วแลกเงินแบ่งออกได้เป็นสองประเภท คือ ตั๋วแลกเงินภายในประเทศ และตั๋วแลกเงินต่างประเทศ สำหรับตั๋วแลกเงินต่างประเทศ ตั๋วแลกเงินจะบังคับได้ในกรณีผู้ถูกสั่งให้จ่ายหรือผู้จ่ายต้องได้มีการรับรองการจ่ายเงิน (Accepted) บนหนังสือตราสารนั้น
3.  Cheque
      เช็ค  คือ ก็เป็นตั๋วแลกเงินลักษณะหนึ่ง แต่ผู้จ่ายเงินเป็นธุรกิจของสถาบันการเงินรูปหนึ่งที่เรียกว่า ธนาคาร ซึ่งเช็คก็คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งอันเรียกว่าผู้รับเงิน
4. Bill of Collection
       คือ   การเรียกเก็บเงินตามตราสารเพื่อลูกค้าเป็นบริการที่ธนาคารให้แก่ลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารด้วยการเรียกเก็บเงินตามเช็ค  ดราฟต์ ตั๋วแลกเงิน  และตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันให้แก่ลูกค้า เมื่อเรียกเก็บเงินได้ ธนาคารจะนำเงินเข้าบัญชีให้ลูกค้า ธนาคารให้บริการเรียกเก็บเงินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศโดยธนาคารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกค้า
5. Bonds
       คือ พันธบัตร (Bond) เป็นสัญญาที่ออกโดยผู้ขอกู้ยืม โดยจะมีสัญญาข้อผูกมัดที่ว่า ผู้ออกพันธบัตร (หรือผู้ขอกู้ยืม) จะต้องจ่ายผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) ให้กับผู้ถือพันธบัตร (ผู้ให้กู้) ตามอัตราและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพันธบัตร
6.  Stock
      คลังสินค้า, พัสดุ, สินค้าในร้าน, สต๊อค, ของสะสม, จำนวนที่สะสมไว้,ก้าน, ด้าม, โคนต้น, ลำต้น, ตอไม้, เขียงไม้, ฐาน, ก้านสมอเรือ,ปศุสัตว์, บริษัทหุ้นส่วน, หลักทรัพย์ของบริษัท, พันธบัตร, ไม้ค้ำเรือ,แท่นต่อเรือ, ไม้หมอนใต้ท้องเรือ, พืชพันธ์, เชื้อสาย adj. มีอยู่ในร้าน
Transport Documentเ อกสารการขนส่ง
1. Bill of Lading 
                ใบเบิก ใบเบิก ( BL -- บางครั้งเรียกว่าBOLหรือB / L ) เป็นเอกสารที่ออกโดยเป็นผู้ให้บริการไปยังผู้ส่ง , ยอมรับว่าไม่ระบุสินค้าที่ได้รับในคณะกรรมการเป็นสินค้าสำหรับการขนส่งไปยังสถานที่ที่มีชื่อสำหรับการจัดส่งไปที่ผู้รับตราส่งที่มักจะมีการระบุ ผ่านใบเบิกเกี่ยวข้องกับการใช้เวลาอย่างน้อยสองโหมดที่แตกต่างของการขนส่งจากถนน, ทางรถไฟทางอากาศและทางทะเล คำที่มาจากคำกริยา"ในการรับภาระ"ซึ่งหมายความว่าการโหลด[ ชี้แจงจำเป็น ]สินค้าลงเรือหรือรูปแบบอื่นของการขนส่งที่
                ใบเบิกสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุซื้อขาย ค่ารูปแบบมาตรฐานระยะสั้นของน้ำหนักบรรทุกเป็นหลักฐานของสัญญาของการขนส่งสินค้าและบริการจำนวนของวัตถุประสงค์ :
                มันเป็นหลักฐานที่แสดงว่าเป็นสัญญาที่ถูกต้องของการขนส่งหรือการทำสัญญาเช่าเหมาลำที่มีอยู่และอาจรวมการเต็มรูปแบบของสัญญาระหว่างผู้ตราส่งและผู้ให้บริการโดยอ้างอิง (เช่นรูปแบบสั้น ๆ เพียงหมายถึงการทำสัญญาหลักเป็นเอกสารที่มีอยู่ ในขณะที่แบบยาวของการเรียกเก็บเงินจากการบรรทุก ( connaissement หนึ่ง ) ที่ออกโดยผู้ให้บริการชุดออกทั้งหมดตามเงื่อนไขของสัญญาการขนส่ง;
                มันเป็นใบเสร็จรับเงินที่ลงนามโดยผู้ให้บริการยืนยันว่าสินค้าที่ตรงกับคำอธิบายสัญญาที่เราได้รับอยู่ในสภาพดี (Bill จะได้รับการอธิบายเป็นที่สะอาดหากสินค้าที่ได้รับบนกระดานอยู่ในสภาพดีชัดเจนและ stowed พร้อมสำหรับการขนส่ง); และ
                นอกจากนี้ยังเป็นเอกสารของการถ่ายโอนให้เป็นอิสระสามารถโอนเปลี่ยนมือได้ แต่ไม่เป็นตราสารเปลี่ยนมือในแง่ของกฎหมายคือมันควบคุมทุกด้านของการขนส่งทางกฎหมายทางกายภาพและเช่นตรวจสอบหรือตราสารเปลี่ยนมืออื่น ๆ ก็อาจจะมีผลกระทบต่อเจ้าของความเห็นชอบของ สินค้าจริงจะถูกดำเนินการ นี้ตรงกับประสบการณ์ใน                ชีวิตประจำวันที่สัญญามีบุคคลที่อาจจะทำให้กับผู้ให้บริการในเชิงพาณิชย์เช่น FedEx สำหรับพัสดุส่วนใหญ่เป็นสายการบินที่จะแยกจากสัญญาสำหรับการขายสินค้าที่จะดำเนินการใด ๆ แต่ก็ผูกให้บริการไปตามข้อกำหนดของ irrespectively ของ ที่ผู้ถือครองที่แท้จริงของ B / L, และเป็นเจ้าของของสินค้าที่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง
2. Airway Bill
                ใบตราส่งทางอากาศ (AWB) หรือเป็นเอกสารที่สำคัญที่สุดที่ออกโดยผู้ให้บริการโดยตรงหรือผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาต มันเป็นเอกสารการขนส่งที่ซื้อขายไม่ได้ มันครอบคลุมการขนส่งของการขนส่งสินค้าจากสนามบินไปยังสนามบิน โดยการรับส่งสินค้าเป็นตัวแทนขนส่งสินค้าทาง IATA จะกระทำในนามของผู้ให้บริการที่มีใบตราส่งทางอากาศออกเป็น
AWBs มีสิบเอ็ดตัวเลขที่สามารถใช้เพื่อให้การจอง, ตรวจสอบสถานะของการส่งมอบและตำแหน่งปัจจุบันของการจัดส่ง จำนวนประกอบด้วย :
                1 ตัวเลขสามตัวแรกจะมีคำนำหน้าสายการบิน สายการบินต่างๆได้รับการกำหนดหมายเลข 3 หลักโดย IATA ดังนั้นจากคำนำหน้าเราทราบว่าสายการบินได้ออกเอกสาร
                2 ถัดไปเจ็ดหลักเป็นจำนวนที่ทำงาน / s -- จำนวนหนึ่งสำหรับแต่ละสินค้าฝากขาย
                3 หลักสุดท้ายคือสิ่งที่เรียกตรวจสอบหลัก มันเป็นมาถึงที่ในลักษณะดังต่อไปนี้
ตัวเลขเจ็ดหลักที่ใช้จะถูกแบ่งออกโดย 7 โดยใช้การคำนวณการหารยาว ส่วนที่เหลือจะกลายเป็นหลักการตรวจสอบ นั่นคือเหตุผลที่ไม่มีหมายเลข AWB ลงท้ายด้วยตัวเลขที่สูงกว่า 6 waybills แอร์จะออกในชุดของสีที่แตกต่างกัน สามตัวแรกสำเนาถูกจัดประเภทเป็นต้นฉบับ แรกเดิมสีฟ้าในสีเป็นสำเนาส่งของ ที่สองสีฟ้าสีจะถูกเก็บไว้โดยผู้ให้บริการออก ที่สาม, สีส้ม, เป็นสำเนาของผู้รับ สำเนาสีเหลืองทำหน้าที่เป็นใบเสร็จรับเงินการส่งมอบหรือหลักฐานการจัดส่ง *. สำเนาอื่น ๆ ที่มีสีขาวทั้งหมด
มีวัตถุประสงค์หลายอย่างที่ใบตราส่งทางอากาศทำหน้าที่มี แต่ฟังก์ชั่นหลักคือ
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->สัญญาของการขนส่ง ทุกหลังเดิมของ AWB เงื่อนไขของสัญญาการขนส่งทางอากาศที่มี
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->หลักฐานของการได้รับสินค้า
                เมื่อส่งมอบสินค้าที่จะส่งต่อเขาจะได้รับใบเสร็จรับเงิน ใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานว่าการจัดส่งได้ส่งมอบในลำดับที่ดีและเงื่อนไขและยังให้คำแนะนำในการจัดส่งสินค้าที่มีอยู่ในหนังสือเป็นผู้ขนส่งสินค้าของใช้, เป็นที่ยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการเป็นสำเนาต้นฉบับของใบตราส่งทางอากาศที่มอบให้แก่ผู้ส่งไว้เป็นหลักฐานของการยอมรับของสินค้าและเป็นหลักฐานของสัญญารับขน
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->บิลค่าระวาง
                ใบตราส่งทางอากาศที่อาจถูกใช้เป็นค่าหรือใบแจ้งหนี้พร้อมเอกสารประกอบเพราะมันอาจบ่งบอกถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายโดยผู้รับค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตัวแทนหรือผู้ให้บริการ สำเนาต้นฉบับของใบตราส่งทางอากาศที่ใช้สำหรับการบัญชีผู้ให้บริการของ
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->รับรองการประกอบธุรกิจประกันภัย
                ใบตราส่งทางอากาศนอกจากนี้ยังอาจใช้เป็นหลักฐานหากผู้ให้บริการที่อยู่ในตำแหน่งเพื่อประกันการส่งสินค้าและมีการร้องขอให้ทำตามผู้ส่ง
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->ประกาศศุลกากร
                แม้ว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรต้องยื่นเอกสารต่างๆเช่นใบแจ้งหนี้การค้าที่บรรจุรายชื่อ, ฯลฯ ใบตราส่งทางอากาศมากเกินไปจะเป็นหลักฐานของจำนวนเงินที่เรียกเก็บเงินจากการขนส่งสินค้าสำหรับสินค้าที่ดำเนินการและอาจมีความจำเป็นที่จะนำเสนอสำหรับพิธีการศุลกากรรูปแบบของใบตราส่งทางอากาศที่ได้รับการออกแบบ โดย IATA และเหล่านี้สามารถที่จะใช้สำหรับในประเทศทั้งสองรวมทั้งการขนส่งระหว่างประเทศ เหล่านี้จะใช้ได้ในสองรูปแบบ ได้แก่ โลโก้สายการบินพร้อมมอบใบตราส่งทางอากาศและอากาศที่เป็นกลางใบตราส่งทางอากาศ โดยปกติ waybills อากาศสายการบินมีการกระจายไปยังตัวแทน IATA สินค้าโดย IATA สายการบิน waybills อากาศแสดง :
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->ชื่อผู้ให้บริการของ
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->ที่อยู่สำนักงานใหญ่
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->โลโก้ของ
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->ก่อนสิบเอ็ดอากาศพิมพ์ตัวเลขใบตราส่งทางอากาศ
                นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่จะเสร็จสมบูรณ์ใบตราส่งทางอากาศผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ตัวแทนทั่วโลกตอนนี้ใช้ของตัวเองในบ้านระบบคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ไขปัญหาสายการบินและการขนส่งสินค้าส่งต่อ'waybills อากาศของตัวเอง IATA ตัวแทนขนส่งสินค้ามักจะถือ waybills อากาศของผู้ให้บริการหลาย แต่ก็ค่อยๆกลายเป็นเรื่องยากที่จะรองรับเหล่านี้ก่อนเลข waybills อากาศที่มีบัตรประจำตัวที่พิมพ์ออกมาในระบบคอมพิวเตอร์ ดังนั้นอากาศที่เป็นกลางใบนำส่งสินค้าได้ถูกสร้างขึ้น ทั้งสองประเภทของ waybills อากาศมีรูปแบบเดียวกันและรูปแบบ อย่างไรก็ตามในใบนำส่งสินค้าทางอากาศที่เป็นกลางไม่แบกใด ๆ ก่อนพิมพ์ชื่อบุคคลที่อยู่สำนักงานใหญ่โลโก้และหมายเลข
3. Railway Bill   ใบตราส่งสินค้ารถไฟ
4. Roadway Bill   ใบตราส่งสินค้าถนน
5. Certificate of Posting    รั บรองการโพสต์
6.  CMR
7.  TIR

Commercial Document   เอกสารพาณิชย์
1. invoice   
                ใบกำกับภาษี (อังกฤษ: Tax Invoice) คือ เอกสารหลักฐานสำคัญ ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องจัดทำและออกให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือบริการทุกครั้งที่มีการขายสินค้าหรือบริการ เพื่อแสดงมูลค่าของสินค้าหรือบริการและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือบริการในแต่ละครั้ง
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->กรณีการขายสินค้า ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีพร้อมทั้งส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อในในทันทีที่มีการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ซื้อ
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->กรณีการให้บริการ ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีพร้อมทั้งส่งมอบให้แก่ผู้รับบริการในทันทีที่ได้รับชำระราคาค่าบริการ
     ผู้ประกอบการจดทะเบียนต้องจัดทำใบกำกับภาษีอย่างน้อย 2 ฉบับ ดังนี้
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->ต้นฉบับ ผู้ประกอบการต้องส่งมอบให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
<!--[if !supportLists]-->·         <!--[endif]-->สำเนา ผู้ประกอบการต้องเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการลงรายงานภาษีเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันที่ทำรายงาน
2. packing list   รายการบรรจุ
3. weight list   รายการน้ำหนัก
4. certificate of origin   หนังสือรับรองแหล่งกำเนิด
5. health certificate    ใบรับรองสุขภาพ
6. inspection certificate   การตรวจสอบใบรับรอง
7. insurance certificate   ใบรับรองการประกัน
8. phytosanitary certificate   ใบรับรองสุขอนามัยพืช
9. fumigation certificate   ใบรับรองรมควัน
10. certificate of analysis     ใบรับรองการวิเคราะห์
11. sanitary certificate    ใบรับรองสุขอนามัย
12.  Entreport Certificates   ใบรับรอง Entreport
13.  Shipping Line Certificates   การจัดส่งสินค้าใบรับรองสาย
14.  Measurement Certificates   ใบรับรองการวัด
ข้อมูลจาก
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/